ทัวร์อีสานใต้ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
ทัวร์
ระยะเวลา
4 วัน 3 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
21-24 ตุลาคม / 19-22 พฤศจิกายน / 4-7 ธันวาคม / 10-13 ธันวาคม
Hilight

ทริปลงมือทำ  ปั้นดินเป็นดาว
มัดย้อมอัคนี   ขับร้องกันตรึม
สุขพรึมนวดไทย   สุขใจเลี้ยงข้าง
สืบสานวัฒนธรรมไทย

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    กรุงเทพฯ - อัตลักษณ์เพลงโคราช - ปราสาทหินพนมวัน (B/L/D)
    • 07.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน
      07.30 น.   ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยรถตู้ปรับอากาศ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครราชสีมา 
      ระหว่างทาง บริการอาหารเช้าบนรถ (BREAKFAST BOX) <275 กิโลเมตร/ 4 ชั่วโมง>
      รถจะแล่นบนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) จากกรุงเทพฯถึงสระบุรี 
      จากนั้นวิ่งต่อไปบนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) จากสระบุรีจนถึงเมืองย่าโม โคราช
      กลางวัน      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น 
      บ่าย นำท่านกราบสักการะ ย่าโม ณ วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยท้าวสุรนารีและพระยาสุริยเดช สามีของท่าน เมื่อครั้งหลังจากเสร็จศึกกับกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ที่ทุ่งสัมฤทธิ์ เล่ากันว่า ในขณะยกทัพกลับเข้าเมือง ท้าวสุรนารีได้แวะพักบริเวณท่าตะโก จึงได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่าหากแพเสี่ยงทายนี้ลอยไปติดที่ใดก็จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ที่นั้น แพดังกล่าวได้ลอยไปติดที่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง จึงได้สร้างวัดขึ้นและตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดศาลาลอย” วัดนี้มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและอนุสรณ์สถานเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นภายในวัดอีกด้วย เมื่อท้าวสุรนารีถึงแก่อสัญกรรมจึงได้นำอัฐิของท่านมาบรรจุไว้ในเจดีย์ที่วัดแห่งนี้ 
      และมาชมและร่วมร้อง เพลงโคราช เป็นการร้องเพลงโต้ตอบและเป็นการแสดงพื้นบ้านของชาวโคราช ซึ่งได้สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน มีเอกลักษณ์อยู่ที่การร้องรำเป็นภาษาโคราช และนิยมขับร้องเพื่อแก้บนต่อท้าวสุรนารี ซึ่งในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ (พ.ศ. 2313-2395) ท่านชอบเพลงโคราชมาก จึงมีผู้หาเพลงโคราชไปเล่นแก้บน 
      เดินทางสู่ ปราสาทหินพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า เป็นโบราณสถานสถาปัตยกรรมในคติความเชื่อของเขมรโบราณ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อเป็นเทวสถาน ก่อนจะดัดแปลงกลายมาเป็นพุทธสถาน เป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ ตัวปราสาทหินพนมวันถูกสร้างเป็นปรางค์มีฉนวน (ทางเดิน) ติดต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม พระปรางค์มีประตูซุ้ม 3 ด้าน ซุ้มประตูด้านทิศเหนือ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย 1 องค์ ลักษณะศิลปะแบบอยุธยา สิ่งที่น่าสนใจของปราสาทหินนี้ คือ เป็นศาสนสถาน
      ที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ถูกสร้างในแบบศาสนาพราหมณ์ แต่กลับมีการค้นพบพระพุทธรูป แผนผังของปราสาทหินพนมวันนั้นมีรูปแบบเดียวกันกับปราสาทหินพิมายในรูปศิลปะร่วมแบบบาปวน การก่อสร้างลำบากเพราะแถบนี้ไม่มีภูเขาหินทราย จึงต้องไปขนเอาหินทรายมาจากที่อื่นไกล จึงจำต้องใช้หินทรายแดงที่มีคุณภาพต่ำผสมกับหินทรายสีขาวเทา เพราะแหล่งวัตถุดิบที่ใกล้สุดมีหินทรายทั้งสองสีผสมกันอยู่นั่นเอง เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ตัวเมืองโคราช นำท่านไปชม อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี หรือ "ย่าโม" วีรสตรีไทยผู้อยู่ในหัวใจของชาวโคราชและชาวไทยทุกคน และถือเป็นอนุสาวรีย์ที่ยกย่องความดีของวีรสตรีสามัญชนคนแรกของประเทศ ณ บริเวณลานย่าโม
      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก The Rich Hotel หรือเทียบเท่า

  • Day 2
    บ้านด่านเกวียน ปั้นดินเป็นดาว - DIY ผ้าภูอัคนี วิถีผ้าไทย - คลายเส้นเน้นสุขภาพ-บ้านโอฬารนวดไทย (B/L/D)
    • 07.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      08.30 น. ออกเดินทางสู่ บ้านด่านเกวียน <25 กิโลเมตร / 35 นาที> หมู่บ้านนี้ในอดีตเป็นที่พักกองเกวียนที่ค้าขายระหว่างเมืองโคราชและเขมร มีแม่น้ำมูลไหลผ่าน ชาวบ้านใช้ดินริมฝั่งแม่น้ำ
      มาปั้นภาชนะใช้สอยและได้ทำมาจนปัจจุบันที่มีชื่อเสียงมากในฐานะที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาได้สวยงาม มีรูปแบบที่แปลกและหลากหลาย แต่ยังคงลักษณะดั้งเดิมของกรรมวิธีในการปั้นและใช้ดินดำสัมฤทธิ์ที่มีเอกลักษณ์ของสีเป็นเครื่องปั้นแบบด่านเกวียนโดยเฉพาะ
      09.00 น. นำท่านสรรสร้าง งานปั้นดินเป็นดาว ณ หมู่บ้านด่านเกวียน 
      ด่านเกวียนเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมประเพณีที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผาและเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วประเทศ เพราะเป็นศูนย์รวมเครื่องปั้นดินเผาแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ เชิญท่านร่วมกิจกรรมปั้น DIY ที่ท่านไม่เคยลองทำมาก่อน พร้อมชมการสาธิตการปั้นดินเผาสไตล์ด่านเกวียน แล้วนำกลับไปเป็นที่ระลึกที่น่าภาคภูมิใจกับผลงานศิลป์ฝีมือเรา 
      10.30 น. เดินทางต่อสู่ บ้านเจริญสุข จังหวัดบุรีรัมย์ < 100 กิโลเมตร / 1 ชั่วโมง 30 นาที>
      12.00 น. เดินทางถึง บ้านเจริญสุข ในอดีตนั้นตรงนี้เป็นพื้นที่ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นพื้นที่ภูเขาไฟลูกสำคัญคือ เขาอังคาร อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเจริญสุข ชาวชุมชนจึงเกิดไอเดียนำดินภูเขาไฟที่อุดมด้วยแร่ธาตุมาทำเป็นสีย้อมเส้นฝ้ายผสมผสานกับภูมิปัญญาการทอผ้าจนเป็น “ผ้าภูอัคนี” ที่ส่งผลให้คุณสมบัติของผ้ามีเนื้อนิ่ม มีสีที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีสีน้ำตาลอ่อนกับน้ำตาลแดงแบบดินภูเขาไฟ ผ้างามสวยสดใส  
      นำท่านรับประทานอาหารว่างต้อนรับ พร้อมมาลงมือทำ ผ้าภูอัคนี ฝีมือแบบ DIY ตามสไตล์เรา 
        กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ชุมชนบ้านเจริญสุข 
      บ่าย เดินทางต่อไปยัง สนามช้างอารีน่า <65 กิโลเมตร / 1 ชั่วโมง> สนามฟุตบอลมาตรฐาน  ระดับโลกแห่งเดียวในไทยที่ไม่มีลู่วิ่งและเป็นแหล่งเช็คอินท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์
      เดินทางถึงสนามของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด พาชมสนามพร้อมเจ้าหน้าที่แนะนำและได้ภาพถ่ายที่ระลึกสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่า ซึ่งสามารถจุผู้ชมได้มากที่สุดถึง 32,600 ที่นั่ง และยังได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์ เวิลด์ เรกคอร์ดส์ ว่า เป็นสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าที่ใช้เวลาสร้างน้อยที่สุดในโลกเพียง 256 วัน  
      ครั้นสมควรแก่เวลา เดินทางต่อไปยัง บ้านโอฬารนวดไทยเบญจศาสตร์ เป็นศาสตร์แห่งภูมิปัญญากับการดูแลสุขภาพ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการนวดไทย ด้านสมุนไพร และพืชผักพื้นบ้าน เปิดให้บริการนวดไทยอันเป็นมรดกไทย มรดกโลก เชิญสัมผัสอัตลักษณ์การนวดไทยในรูปแบบธรรมชาติได้ที่นี่ 
      เย็น รับประทานอาหารเย็น เมนูสุขภาพ ณ บ้านโอฬารนวดไทย
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Best Western Burirum Hotel หรือเทียบเท่า

  • Day 3
    บ้านครูเพลงน้ำผึ้ง กันตรึม สุรินทร์ - วิถีช้าง วิถีถิ่น ผ้าไหมสุรินทร์ - ช้างเคียงเฮือน (B/L/D)
    • 07.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      08.30 น. เดินทางสู่ ศูนย์วัฒนธรรมบ้านดงมัน จังหวัดสุรินทร์ <55 กิโลเมตร / 1 ชั่วโมง> 
      09.30 น. นำท่านมารู้จักกับศิลปินพื้นบ้าน "กันตรึม" ที่มีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะในแถบอีสานใต้ จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ผู้มีผลงานด้านการประพันธ์ การแสดงศิลปะดนตรีพื้นบ้าน เป็นครูผู้สอนวิชานาฏศิลป์พื้นบ้าน และเป็นทั้งวิทยากรบรรยายและสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมอยู่เนืองๆ ให้กับโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ เธอผู้นี้คือ แม่น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ สำหรับวงกันตรึมคณะ "ดงมันรักกันตรึม" เริ่มแรกเป็นดนตรีบรรเลงประกอบในพิธีกรรมการเข้าทรงรักษาไข้และบรรเลงกล่อมหอแต่งงาน ต่อมาจึงพัฒนารูปแบบอย่างหลากหลาย ทั้งแนวพื้นบ้านโบราณ แนวประยุกต์ทันสมัย ความโดดเด่นอยู่ที่ความไพเราะของปี่อ้อ ความหวานของซอกันตรึม และการขับร้องประกอบการบรรเลง นอกจากนั้นก็จะ มีการฟ้อนจากการประดิษฐ์ท่าฟ้อนรำให้เหมาะสมกับเอกลักษณะของท้องถิ่น เรามาร่วมร้องและร่ายรำเพื่อบำบัดและสนุกสนานกับวงกันตรึมแม่น้ำผึ้งครูเพลง พร้อมทำกิจกรรมที่ชุมชนดงมัน
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน เมนูท้องถิ่นที่บ้านเรือนไทยชุมชนดงมัน กับเมนูพิเศษ แกงสลอเจ็ก แกงสลองั้ย เบาะตรอปแควงญู ปวงถอด เป็นต้น
      บ่าย เดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทอง บ้านท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 
      <16 กิโลเมตร / 20 นาที> พาท่านชมศิลปะการถักทอเส้นไหมสลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณอันวิจิตรงดงามจนกลายเป็นผืนผ้าไหมยกทองพร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์
      ได้เวลาอันควร ออกเดินทางสู่ ช้างเคียงเฮือน อำเภอชุมพลบุรี <55 กิโลเมตร / 1 ชั่วโมง> นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านช้าง ที่นี่เลี้ยงช้างไม่ใช้ตะขอ เพราะช้างเปรียบเสมือนสมาชิกหนึ่งในครอบครัวของคนเลี้ยงช้าง วิถีช้างที่นี่จึงไม่ใช้ตะขอบังคับช้าง ช้างจึงเป็นมิตรและผูกพันกับผู้คนและชาวบ้านในละแวกนั้น เข้าหมู่บ้านมาพาท่านเพลิดเพลินกับการป้อนอาหารช้างภายในหมู่บ้าน พร้อมพาท่านไปชมการอาบน้ำและเล่นน้ำของช้างเคียงเฮือน ถ่ายรูปในมุมเก๋ไก๋ใกล้ชิดช้างในมุมที่ไม่เหมือนใคร
      เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางเข้าสู่ ตัวเมืองสุรินทร์ <60 กิโลเมตร / 1 ชั่วโมง 15 นาที>
      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านแม่พิมพ์ปลาเผา
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก The Wood หรือเทียบเท่า

  • Day 4
    สุรินทร์ - ปราสาทหินพนมรุ้ง - ปราสาทหินเมืองต่ำ - กรุงเทพฯ (B/L)
    • 07.00 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      08.00 น. ออกเดินทางไปยัง ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ <90 กิโลเมตร / 1 ชั่วโมง 30 นาที> 
      09.30 น. เดินทางถึง ปราสาทพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเขาพนมรุ้ง ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นโดยมีรูปแบบของศิลปะเขมรโบราณที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ความงดงามและความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ปรากฏให้เห็นได้ในรูปของงานสถาปัตยกรรมการจำหลักลวดลาย การเลือกทำเลที่ตั้งบนยอดเขา ซึ่งมีแผนผังตามแนวแกนที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้างต่างๆ เรียงตัวกันเป็นแนวเส้นตรงพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง คือ ปราสาทประธาน จากผลงานก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่นี้ชวนให้เกิดความสงสัยและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าคนในสมัยโบราณสามารถสร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นมาได้อย่างไร และปราสาทแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยที่ประทับของพระศิวะผู้ซึ่งประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาส ดังนั้นการที่ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นบนยอดเขาพนมรุ้ง จึงเป็นการสะท้อนถึงการนับถือศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายได้เป็นอย่างดี
      เดินทางต่อไป พาท่านเที่ยวชม ปราสาทเมืองต่ำ เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ตามคติศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ตั้งอยู่ ณ พื้นราบเบื้องล่างของเขาพนมรุ้ง และน่าจะเป็นชุมชนที่มีความสัมพันธ์กันกับปราสาทพนมรุ้งเห็นได้จากปราสาททั้งสองแห่งอยู่ใกล้กัน ลักษณะสถาปัตยกรรมด้านในของปราสาทเมืองต่ำนั้นได้ถูกก่อสร้างด้วยฝีมือช่างในระดับช่างหลวงที่ไม่ด้อยกว่าปราสาทพนมรุ้งเลย ซึ่งปราสาทเมืองต่ำเป็นชื่อที่เข้าใจกันว่ามาเรียกกันในภายหลังคือเปรียบเทียบกับเมืองสูงอย่างพนมรุ้งก็เป็นได้ เพราะคำว่า "เมืองต่ำ" นั้น หมายถึง พื้นที่ต่ำหรือพื้นที่ราบ
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      บ่าย เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ <375 กิโลเมตร / 5 ชั่วโมง 30 นาที> ระหว่างทาง จะแวะพักที่ ฟาร์มโชคชัย  
      เย็น ถึงกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจ

Top